Billboard จัดอันดับเพลงในอัลบััม Emotions

   Billboard จัดอันดับเพลงจากอัลบั้ม Emotions ในวาระที่อัลบั้มมีอายุครบ 30 ปี



10. To be around you

หนึ่งใน 4 tracks ที่ได้ทีม C+C Music Factory ร่วมแต่งและโปรดิวซ์ เพลงจังหวะคึกคัก ที่มีความย้อนยุคได้อารมณ์เพลง Got to be real เพลงดังในปี1978 ถึงแม้เพลงอื่นๆ ที่ทีมนี้ทำจะได้ซาวด์แบบโมทาวน์ 70 มา แต่เพลงนี้คือได้ความลงตัวของยุคนั้นมากที่สุด


9. And You Don’t Remember

บัลลาดทรงพลัง เต็มเปี่ยมด้วยความเศร้าเคล้าอารมณ์ เคียงคู่มากับเพลง If it's over


8. So Blessed

เพลงที่มีบรรยากาศของยุค 60's ซึ่งละม้ายกับเพลง Unchained melody (OST. Ghost) ซึ่งมารายห์ถ่ายทอดได้สวยงามสอดคล้องไปกันกับภาคดนตรีที่ไม่ดูเชย เป็นอีกหนึ่งต้นแบบในเวลาต่อมาของมารายห์ในเพลง Forever


7. “You’re So Cold”

แม้มารายห์จะพูดทีเล่นทีจริงเมื่อปีที่แล้วว่าเพลงนี้เธอไม่ใคร่จะแนะนำ แต่บิลบอร์ดไม่เห็นด้วย เพราะเพลงนี้สนุกสนาน ผ่อนคลาย และสุดเหวี่ยงในเรื่องเสียงซึ่งมารายห์ใช้เสียงสูงต่ำเปลี่ยนคีย์ไต่คีย์ในแบบที่เพลงมารายห์ในยุคหลังจากนี้จะเป็น


6. Till the End of Time

เพลงบัลลาดอันเรียบโก้ เปี่ยมด้วยสภาวะอันพึงมีของตัวเพลง หวานละมุน ไต่ระดับขั้นของการค่อยๆบรรจงถ่ายทอดออกมาแผ่วเบา แล้วผลิอารมณ์เต็มขั้นในตอนท้าย


5. “The Wind

เพลงที่มารายห์แต่งอุทิศให้กับเพื่อนซึ่งเสียชีวิตจากการถูกรถชน โดยใช้ทำนองเพลงแจ๊ซของ Russell Freeman ถ่ายทอดออกมาด้วยความอาลัย โดยใช้ช่องเสียงลมๆของมารายห์อันเป็นเอกลักษณ์ของมารายห์ในเวลาต่อมาอีกเช่นเดียวกัน


4. “If It’s Over”

ก่อนจะมาเป็นเพลงนี้ มารายห์สนใจอยากจะร่วมงานกับ Carole King มาก ซึ่งแครอลก็สนับสนุนให้มารายห์ลองเลือกเพลง (You Make Me Feel Like) A Natural Woman ของ Aretha Franklin มาทำใหม่ แต่มารายห์อยากจะแต่งเพลงใหม่แทน โดยใช้ฐานเพลงกอสเปล ดนตรีสด ที่มีส่วนผสมหลายๆระดับ การถ่ายทอดพลังเสียงที่พอเหมาะพอเจาะ พาเพลงให้มีความสมบูรณ์แบบและคลาสสิค


3. Make It Happen

ตั้งอยู่บนกรูฟของเพลงเก่าที่แทบจะแซมเปิ้ลมาแล้วของเพลง I want to thank you ของ Alicia Myers ในปี 1981 บิลบอร์ดบรรยายว่าเพลงมีกลิ่นอายกอสเปล ปลุกพลัง สร้างแรงกระตุ้น มีความเป็นสากล เล่าเรื่องราวจากคนธรรมดามาเป็นคนประสบความสำเร็จ และสอดแทรกข้อคิดสร้างแรงบันดาลใจ


2. Can’t Let Go

เพลงบัลลาดสโลว์แจมที่มีอินโทรและฮุคซึ่งคล้ายคลึงกับเพลง Make it last forever ของ Keith Sweat ในปี 1988 ซึ่งมารายห์ชอบมากเป็นพิเศษ จนเอาไปแมชอัพกับเพลง Thank God I found you มาแล้ว บิลบอร์ดบรรยายว่ามารายห์ใช้เสียงลมๆ ให้อารมณ์และบรรยากาศที่อัดแน่นด้วยอารมณ์ในเนื้อเสียงลมนั้นๆ ซึ่งไปกันอย่างสวยงามกับโปรแกรมมิ่งกลองในเพลง


1. Emotions 

อีกหนึ่งเพลงที่มีคอร์ดมีโครงสร้าง การร้อง แทบจะยกเพลง Best of my love ของวง The Emotions ในปี1977 มา โดยบิลบอร์ดบรรยายว่า มารายห์ถ่ายทอดเสียงออกมาอย่างไหลล่อง ชัดเจน โหนเสียงกระตุ้นเร้า ลงต่ำแบบวิเศษสุด และเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงหวีด ใช้คำง่ายๆ บรรยายได้สมความรู้สึกบรรเจิด ต้องใจ พอฤทัย และสบอารมณ์ 


#Emotions30


ที่มา : https://www.billboard.com/articles/columns/pop/9631531/mariah-carey-emotions-album-songs-best

Comments

Popular posts from this blog

"มารายห์" กล่าวถึง "มาดอนน่า"

รีวิว อัลบั้ม CAUTION โดยคุณ ภูมิ โสภา

ครั้งแรกของ โรเบิร์ต เดอ นีโร กับการร่วมงานกับผู้กำกับ แนนซี เมเยอร์ส ในหนังคอมเมดี้ The Intern