เปิดปูมเบื้องหลังย้อนระลึกถึงเทศกาลคริสต์มาสของมารายห์ในวัยเยาว์




เปิดปูมเบื้องหลังย้อนระลึกถึงเทศกาลคริสต์มาสของมารายห์ในวัยเยาว์ สิ่งใดทำให้หล่อหลอมให้เธอลุ่มหลงเทศกาลคริสต์มาส และปูทางให้เธอกลั่นออกมาเป็นอัลบั้มและบทเพลงดัง จวบจนได้การสมัญญานามเป็นราชินีแห่งเทศกาล


สารัตถะส่วนหนึ่งตัดทอนจากหนังสือ The Meaning of Mariah Carey, Part When Christmas Comes หน้า 17-21.

ปฐมบท: When Christmas Comes เมื่อคริสต์มาสมาเยือน

ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสนั้น Patricia Carey (หรือแพทที่มารายห์เรียกขาน) จะนำใบไม้มาประดับบนโต๊ะไม้ในบ้าน พร้อมด้วยอุปกรณ์ประดับประดาต่างๆ นานา ทำให้โต๊ะใหญ่ประจำบ้านนี้เป็นศูนย์รวมของความหรรษาที่กำลังจะเกิดขึ้นในเทศกาลคริสต์มาส รวมถึงต้นสนที่ประดับไว้ในห้องนั่งเล่นของบ้าน นัยว่าให้สมาชิกในบ้านได้ดื่มด่ำไปกับเทศกาลแสนสุขนี้

ก่อนจะถึงเทศกาลแล้ว มักจะมีธรรมเนียมที่นำปฏิทิน Advent calendar มาตั้ง (เป็นกล่องลักษณะตู้ลิ้นชักที่ระบุวันเพื่อใช้ในการนับวันถอยหลังสู่เทศกาลคริสต์มาส) แพทจะนำมาตั้งไว้ให้สมาชิกในบ้านได้นับวันเวลาไปด้วยกัน มารายห์ชอบที่จะมาอ่านโคลงกลอน บทกวี ที่พิมพ์อยู่บนปฏิทิน และแพทก็จะนำช็อคโกแลตใส่ไว้ให้ในตู้ของแต่ละวันให้สมาชิกในบ้านหยิบไป ส่วนแพทก็จะมีการเตรียมไวน์เครื่องเทศกลิ่นหอมที่ปรุงเตรียมเอาไว้ฉลอง

มารายห์ตระหนักดีว่าฐานะของบ้านไม่ได้ร่ำรวย เธอจึงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับของขวัญมูลค่าสูง หรือของเล่นที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น แต่แพทก็พยายามที่จะชดเชยด้วยการสร้างบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่น่าจดจำให้กับครอบครัวภายในบ้านแทน โดยจะทำความสะอาดบ้าน ประดับตกแต่ง และแน่นอนว่าเสียงเพลงก็เป็นอีกความสำคัญหนึ่ง ซึ่งแพทก็จะประทานเสียงร้องโอเปร่าอันทรงพลังของเธอถ่ายทอดเพลงสรรเสริญในเทศกาลคริสต์มาสให้สมาชิกในบ้านฟังอยู่บ่อยครั้ง

แพทมิได้มีฝีมือในการปรุงอาหารมากนัก แต่เธอก็จะพยายามอย่างเต็มที่สำหรับเทศกาลนี้ โดยมารายห์และแม่บรรจงเข้าครัว เพื่อให้ออกมาเป็นมื้ออาหารแสนพิเศษ โดยมีวัตถุดิบเป็นความเจ็บปวด ความผิดหวัง และเรื่องน่าปวดหัวต่างๆ ตลอดทั้งปีเป็นส่วนผสมลงไปในการปรุง

โดยปกติแล้ว พี่สาวและพี่ชายของมารายห์ (Alison และ Morgan) มักจะไม่ค่อยไปมาหาสู่กัน และไม่ได้สนทนากันมากนัก แต่คริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่ทำให้ทุกคนมาพบกันภายใต้ชายคาบ้านอันทรุดโทรมหลังนี้ แพท มารายห์และพี่ๆ ที่นั่งล้อมโต๊ะกัน เหมือนกับว่าเป็นคนไกลห่างกัน ไม่ค่อยมีการสบตากัน สนทนากันสั้นๆ ให้บรรยากาศผ่านๆไป มารายห์ในขณะนั้นซึ่งยังเด็กมาก ยังไม่ค่อยเข้าใจดีนักถึงเรื่องราวของผู้ใหญ่ที่เขาเคยมีกันมา และยิ่งเมื่อสมาชิกในบ้านที่นานๆ ทีจะได้พบกัน ก็มักจะพกเรื่องราวเก่าๆ ที่เก็บกดหรือไม่พอใจเป็นทุนเดิมต่อกันมารื้อฟื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเป็นบทสนทนาส่วนหนึ่งด้วยวาจาที่รุนแรงและผรุสวาท ห้ำหั่นกันบนโต๊ะอาหาร ด้านมารายห์ที่นั่งอยู่ในวงนี้ ได้แต่ระทม กล้ำกลืนและเฝ้าหวังว่าพวกเขาจะหยุดพฤติกรรมดังว่านี้ หยุดพูดจาตะคอก ตะโกนใส่กัน หวังว่าแพทจะห้ามปรามพวกเขาให้ยุติการสาปแช่งด่าทอกัน และหวังว่าจะได้ไปอยู่ในสถานที่ที่รื่นเริง ปลอดภัย และรื่นรมย์ไปกับเทศกาลคริสต์มาสอันทรงคุณค่านี้...

ชัดเจนว่า Alison และ Morgan จะมีความไม่ลงรอยต่อกันอยู่แล้ว แต่ความขุ่นเคืองของสองคนนี้ก็มักจะนำมาเป็นเปลวไฟพวยพุ่งใส่มารายห์อยู่เสมอ ภัยอันน่ากลัวที่แผ่มาเป็นไอร้อนคุกรุ่นนี้พร้อมที่จะแผดเผามารายห์ได้เสมอ ด้วยความที่มารายห์เป็นลูกคนเล็กของครอบครัว และได้สัดส่วนที่สวยงามของความงามจากธรรมชาติมาอันได้แก่ ผมที่สวยกว่า ผิวที่สว่างกว่า และจิตวิญญาณที่สว่างไสว ทำให้ทั้งสองมองว่ามารายห์เป็นตัวมาร ที่ทำให้ลึกๆแล้วทั้งคู่รู้สึกว่าอ่อนด้อยกว่าและเกิดความอิจฉาต่อมารายห์ที่มีบุญมากกว่าที่ได้ธรรมชาติที่สรรค์สร้างมาให้เธอได้เหนือกว่าในหลายต่อหลายด้าน กอปรด้วยสาเหตุที่พ่อและแม่หย่ากัน และมารายห์ได้อยู่อาศัยกับแม่ แล้วทั้งสองต้องไประหกระเหินอาศัยอยู่กับผู้อื่นแทน ทำให้ทั้งสองอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกปวดร้าว ปะปนไปกับความรู้สึกที่ว่าไม่ได้รับความรักและความเหลียวแล รวมถึงปัญหาชาติพันธุ์ในยุคสมัยนั้นที่ยังกีดกันเด็กที่มีที่มาจากคนดำและคนขาว และน้อยเนื้อต่ำใจที่มารายห์ได้พักอาศัยกับแม่ โดยที่มารายห์เองนั้นลักษณะภายนอกเป็นคนผิวขาว จึงอยู่ในชุมชนคนผิวขาวกับแม่ได้โดยที่ไม่มีความแปลกแยก มารายห์ยังคิดว่าอีก สาเหตุสำคัญที่ทั้งสองมักจะอาฆาตมาดร้ายเธอนั้น บางทีแล้วก็คงมาจากการติดอยู่กับความขมขื่น โดยที่ไม่รู้จักปล่อยผ่านปัญหานั้นของพวกเขาเอง มารายห์เองเพิ่งจะมาเข้าใจและวิเคราะห์ได้เมื่อเติบโตแล้ว แต่ว่าในขณะนั้นเธอเองไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมทั้งสองถึงพุ่งความโกรธาและเกลียดชังมาที่เธอ และสร้างปัญหา และทำลายบรรยากาศความสุขของเทศกาลคริสต์มาสอยู่เป็นประจำทุกๆ ปี

หากแต่ความปรารถนาของมารายห์นั้นเข็มแข็งกว่าความเจ็บปวดใดๆ ของพวกเขา มารายห์ปรารถนาถึงความร่าเริง และสร้างจินตนาการโลกเวทย์มนตร์แห่งคริสต์มาสที่อุดมไปด้วยความสุข มารายห์สร้างจินตนาภาพไปถึงที่สิ่งที่แพทไม่สามารถทำได้ นั่นคือสถานที่อันหรูหรารุ่มรวย และวงดนตรี และคณะประสานเสียงเต็มวง โลกในมายาคติของมารายห์จะถูกเติมเต็มด้วยซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ ตุ๊กตาหิมะ เสียงกระดิ่งและระฆัง และพระเยซูน้อย ที่จะนำความสุขหรรษาอันยิ่งใหญ่เพื่อมาอำนวยพรให้กับเทศกาลที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งจิตนี้

แต่คริสต์มาสของมารายห์ก็ไม่ได้ถูกทำลายไปทุกปีเสียทีเดียว แพทเปิดกว้างให้มารายห์ได้คบเพื่อนในหลายๆระดับของสังคม ทำให้มารายห์มีเพื่อนหลากหลายคนที่มาจากหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นมารายห์ระบุว่ามีลุง (ฝั่งแม่) ซึ่งเป็นคู่รักร่วมเพศสองคนชื่อว่า Burt และ Myron ถึงแม้ว่าที่บ้านของทั้งสองซึ่งเป็นบ้านก่ออิฐขนาดกลางจะไม่ได้มีพื้นที่โอ่อ่าใหญ่โต แต่ก็รายล้อมด้วยต้นไม้อาทิพุ่มราสเบอรี่ และมีม้าลาบราดอร์หนึ่งตัว เมื่อเวลาใดที่ทั้งสองไม่อยู่บ้าน ก็มักจะให้แพทและมารายห์มาอยู่ดูแลเฝ้าบ้านให้ชั่วคราว ทำให้มารายห์ได้โอกาสดีที่จะได้พักอยู่ในสถานที่ที่สะอาดและสะดวกสบายเป็นบางครั้ง

ลุง Burt ประกอบอาชีพครูสอนหนังสือและช่างภาพ ส่วนลุง Myron ทำหน้าที่แม่บ้าน ซึ่งสำหรับ Myron แล้ว มารายห์บรรยาว่าเป็นผู้ชายไว้หนวดที่ตกแต่งและเล็มไว้สวยงาม และแต่งผมเป็นระดับให้ดูดีอยู่เสมอ คลุมชุดคาฟตานผ้าไหมใส่เดินกรีดกรายอยู่ในบ้าน ส่วนลุง Burt ก็ชอบพามารายห์มาเป็นนางแบบถ่ายทอดอิริยาบถในสนามหญ้า และเป็นคนที่สนับสนุนให้มารายห์โพสต์ท่าแก่นๆ ต่างๆ ซึ่ง Burt มีส่วนเสริมสร้างการกล้าแสดงออกนี้ให้แก่มารายห์

มารายห์จำได้แม่นยำว่ามีอยู่รูปหนึ่งที่ถ่ายในเทศกาลคริสต์มาส โดยที่มารายห์ใส่ชุดเดรสสีเขียว ถือดอกไม้ ด้านหลังประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับต่างๆบนต้นไม้ และได้ภาพที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของมารายห์ตลอดมา ความสุขที่ได้ถ่ายรูปสวยๆ แต่งตัวสวยๆ ในบรรยากาศอันแสนวิเศษนี้ ได้อยู่ในสถานที่อันสะอาด จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบสวยงาม มีเตาผิงไฟที่ให้ไออุ่น มื้ออาหารและเครื่องดื่มเลิศรส ซึ่งมีอยู่ปีหนึ่งที่พายุหิมะตกหนักมากจนไม่สามารถกลับได้ ทำให้มารายห์ได้ค้างอยู่ที่บ้านของทั้งสองด้วยความเป็นกันเองและการต้อนรับอันอบอุ่นของลุงทั้งสองคน ชนิดที่ว่ามารายห์ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิตนี้

ลุงทั้งสองคนของมารายห์สนับสนุนให้มารายห์แต่งตัวและแสดงออกความเป็นสตรีอย่างเต็มที่ และไม่ห้ามปรามจินตนาการใดๆ ในวัยเยาว์ของมารายห์เลยแม้แต่น้อย ทำให้มารายห์ได้ซึมซับนำความรู้สึกดีๆ ความอบอุ่น ครอบครัว มิตรภาพ ในเทศกาลคริสต์มาสนี้บรรเลงออกมาเป็นเพลง All I Want For Christmas Is You ที่เริ่มด้วยเสียงกระดิ่งและ หวนคำนึงถึงเสียงเปียโนที่ออกจากกล่องของเล่นเด็ก

มารายห์อธิบายว่ากระบวนการแต่งเพลงนี้เริ่มมาจากคีย์บอร์ดคาสิโอ้เล็กๆ โดยมารายห์มีมุมมองทางจิตใจที่จะให้เพลงออกมาในลักษณะที่จริงใจและบริสุทธิ์ นำเอาความคิด ความรู้สึกในวัยเด็กนั้น ดึงออกมาบรรจงแต่งเมื่อตอนอายุราว 22-23 โดยไม่ให้ออกมาในแนวทางเพลงสรรเสริญประจำเทศกาล มารายห์ระบุว่าเหมือนจะเสี่ยงเหมือนกันที่ทำอัลบั้มคริสต์มาสในขณะที่สังคมสมัยนั้นยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพลงคริสต์มาสมากเท่าใดนัก และยิ่งเป็นเธอที่ยังมีอายุน้อยอยู่ในวงการอีกด้วย แต่ทว่าก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเพลง All I Want For Christmas Is You เป็นเพลงฮิตอันโด่งดังไปโดยปริยาย

ถึงแม้ว่ามารายห์จะนำความใฝ่ฝันส่วนตัวบรรจุลงไปในเพลง แต่มารายห์เองในขณะที่แต่งเพลงนี้เธอก็ระบุว่าอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีความสุขอย่างที่สุดมากนัก เพราะว่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมารายห์และ Tommy ซึ่งอยู่ในระหว่างการจะปรับสถานะมาเป็นสามีของเธอในอีกไม่นานนั้น เป็นตัวแปรที่สับสนสำหรับมารายห์อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ในฐานะผู้บริหาร มารายห์ก็ยอมรับและแสดงความขอบคุณ Tommy ที่มอบโอกาสและสนับสนุนให้มารายห์ทำอัลบั้ม Merry Christmas นี้

มารายห์รับว่าตนเป็นคนที่มีความรู้สึกชอบเพ้อครวญหวนถึงความหลัง และอ่อนไหวง่าย ซึ่งเทศกาลคริสต์มาสจะช่วยโอบอุ้มความเปราะบางนี้ให้เธอ มารายห์โปรดที่จะแต่งเพลงที่จะสร้างความสุข เพื่อเป็นการเยียวยาตนเอง ทำให้ตัวเองอยู่ในภาวะของเด็กสาวผู้ไร้เรื่องกังวล และสื่อสารออกมาในแนวทางและศิลปินที่เธอชื่นชอบ อาทิ Nat King Cole และ The Jackson Five ซึ่งมีเพลงคริสต์มาสคลาสสิกหลายเพลง โดยมารายห์ปรารถนาที่จะร้องเพลงในลักษณะดังว่านี้เพื่อมอบความสำราญใจให้กับทุกผู้ทุกหมู่เหล่า และประทับไว้ตราบกาลนานเมื่อใดก็ตามที่นึกถึงคืนวันอันสวยงามของฤดูกาลคริสต์มาส

ถึงแม้ว่ามารายห์จะคิดว่าสายไปแล้วที่จะส่งต่อความสันติให้กับพี่สาวและพี่ชายทั้งสอง แต่มารายห์เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เธอยังสามารถมอบให้กับทุกท่านได้อยู่นั้นคือ โลกของความเป็นอมตะแห่งวาระของเทศกาลคริสต์มาส...

ติดตามปัจฉิมบท Snow Globe of Joy โลกเหมันต์แห่งความหรรษา ในโอกาสต่อไป...

Comments

Popular posts from this blog

"มารายห์" กล่าวถึง "มาดอนน่า"

รีวิว อัลบั้ม CAUTION โดยคุณ ภูมิ โสภา

ครั้งแรกของ โรเบิร์ต เดอ นีโร กับการร่วมงานกับผู้กำกับ แนนซี เมเยอร์ส ในหนังคอมเมดี้ The Intern