Posts

Showing posts from January, 2021

Mariah กับ (อดีต?) ผู้จัดการ Melissa Ruderman

Image
เร็วๆ นี้ Melissa นางเพิ่งแยกตัวไปเป็นหุ้นส่วนกับอีกบริษัทนึงแล้ว ซึ่งก็น่าจะจากกันสวยๆ เพราะยังเห็นนางไปเม้นท์ให้มารายห์ใต้ภาพ Old Shawn Mendes song อยู่เลย / ณ จุดนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่ายังสามารถจ้างเป็นสัญญาจ้างเดี่ยวๆได้อยู่หรือเปล่า หรือถ้า conflict กับบริษัทใหม่ มารายห์ก็คงต้องหาคนใหม่มาจัดการแทน สำหรับ Melissa เองก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่มาช่วยบริหารงานให้มารายห์ นับตั้งแต่ช่วง Emancipation ที่ Melissa ยังอยู่ในทีมเดียวกับ Benny Medina ซึ่งหนหลังนี้นางก็บริหารจัดการได้ไม่เลว ไม่ต้องเทียวออกสื่อสร้างตัวตนเยอะ แต่เน้นเบื้องหลัง คอยจัดการเป็นธุระดีลต่างๆ อาทิ Apple TV และหนังสือ The Meaning of Mariah Carey ฯลฯ โดยที่มารายห์ก็มีผลงานเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียงช่วง 2018-2020 ด้านเจ๊เองก็เปลี่ยนผู้จัดการบ่อยมาก นับเกินนิ้วมือแล้ว

#MC30 การปลดแอกของมี่ The Emancipation of Mimi

Image
ซิสมี่ไม่ได้ทิ้งเราไว้กลางทาง กลับมาสานต่อโครงการในปณิธาน #MC30 อย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับการขายอัลบั้มในรูปแบบแผ่นเสียงไวนีลกับทาง Universal Music Group ซึ่งทยอยวางขายแล้วเสร็จไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งแผ่นสีทอง แผ่นสีใส และแผ่นสีดำปกติ ซึ่งในสัปดาห์นี้ ก็จะมีการเพิ่มเพลง Sprung และ Secret Love ที่เป็น Bonus tracks แถมอยู่ตามประเทศต่างๆ ให้มาอยู่รวมกันบน Digital platform ของอัลบั้มด้วย สำหรับ EP พิเศษที่มีเพิ่มเข้ามาคือ Your Girl EP ซึ่งต้นฉบับแต่เดิมคือมีแรปจาก N.O.R.E. ด้วย แต่ถูกตัดออก ให้เป็น solo version ในอัลบั้มแทน (ต่อมามารายห์ก็ไปฟีทคืนให้ N.O.R.E. ในเพลง Friendz ตอบแทน) น่าเสียดายที่ไม่มีพ่วง Fly like a bird มาด้วย ทั้งๆที่เหมือนจะทำรีมิกซ์เอาไว้แล้ว หรือแทร็คอย่าง Get your number ก็ไม่มี official remix ใดๆ ในที่สุด ความประเสริฐของ R&B remixes set นี้ทั้งหมด คือ มารายห์ยังรักษามาตรฐานของตนเองในพ.ศ.นั้นอย่างคงเส้นคงวา ด้วยการยกเครื่องเพลงใหม่ โดยได้ทีม Remixer อย่าง Scott Storch (ต่อมาร่วมงานใน Side effects), DJ Clue, และ So So Def productions พร้อมทั้งได้ rapper ระดับ A-l

#MC30 อัลบั้มชามสแตนเลส Charmbracelet

Image
การเดินทางกลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปกว่าสองเดือน พร้อมๆกับการจำหน่ายแผ่นเสียง Vinyl ในส่วนที่ค้างอยู่ภายใต้เครือ Universal Music Group ทั้งหมด ซึ่งสำหรับในยุค Charmbracelet นี้ ก็จะมี EP 5 ชุดหลักๆ ได้แก่ Through the rain, Boy (I Need You), The One, Bringin' on the heartbreak และที่มาแบบไม่คาดคิดอย่าง I only wanted บรรดา Club Remixes ในยุคนี้ มารายห์ไม่ได้ทำการ resung vocal ใหม่ ใดๆ เลย เพราะไม่มีดีเจเจ้าประจำอย่าง David Morales มาร่วมงานด้วย แต่มารายห์เลือกใช้บริการดีเจเจ้าใหม่ๆ อาทิ Hex Hector, Maurice Joshua, Full Intention, Junior Vasquez, Mike Rizzo ฯลฯ ซึ่งโด่งดังมาตามๆกันในช่วง 90 ต่อเนื่องมา ทำให้ได้มิกซ์ซาวด์ใหม่ๆ หลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น House, Disco, Nu-soul, UK-pop, Latin dance ในขณะที่ R&B/Hip-Hop remixes มารายห์ยังเต็มที่กับการบันทึกเสียงและตีความเพลงใหม่อย่างสม่ำเสมอ เช่น The One (So So Def), TTR (Just Blaze Remix), Boy (Street Remix) เป็นต้น Hilight: Through the rain ถึงแม้จะเป็นดาวดับบน Hot 100 และเป็นเพลงที่อันดับต่ำสุดที่ #81 นับเป็นเพลงแรกเริ่มตั้งแต่ที

Brett Ratner ผู้กำกับเอ็มวี Heartbreaker ได้โพสต์รูปใน IG พร้อมกล่าวถึงเอ็มวีนี้

Image
"มารายห์เชิญผมไปช่วยกำกับและตีความเพลง Heartbreaker ออกมาเป็นมิวสิควิดีโอให้เธอหน่อย ซึ่งแน่นอนผมยินดีมากกับโอกาสซึ่งเธอเสนอให้ในครั้งนี้และสำหรับงานที่ผ่านมาผมก็ภาคภูมิใจมากที่ได้ร่วมงานกับเธอ การร่วมงานกับมารายห์เป็นอะไรที่ท้าทายอยู่ตลอด ซึ่งในไอเดียสำหรับเพลง Heartbreaker นี้ก็มีการวางคอนเซปท์จากมารายห์ในการดึงเอาปางร้ายในตัวเธอออกมาโลดแล่นบนจอด้วย ผสานกับสิ่งที่ผมเสนอคือการทำเป็นรูปแบบกึ่งหนังกึ่ง mv ซึ่งมารายห์ก็สนับสนุนความคิดนี้ด้วยเช่นกัน เบียงก้าเป็นตัวละครหรืออีกหนึ่งด้านในตัวมารายห์ ที่จะดึงออกมาต่อสู้กับมารายห์ ซึ่งขณะนั้นไม่นานเป็นเวลาที่ผมเพิ่งกำกับหนัง Rush hour เสร็จ จึงได้ลองติดต่อกับทีมงานสตันท์ของคุณเฉินหลง เพื่อมาช่วยออกแบบฉากการต่อสู้และฝึกให้มารายห์ ซึ่งมารายห์เองก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจเต็มกำลังเอามากๆสำหรับซีนนี้ ซึ่งผมไม่เคยได้เห็นจากใครนอกจากคุณเฉินหลง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแฟนๆถึงได้รักเธอได้ขนาดนี้ มารายห์เองยังอนุมัติไอเดียในการใส่สกอร์หนังจีนเก่าของมิสเตอร์บรูซลีเข้าไปในฉากต่อสู้ระหว่างเพลงด้วย  ระหว่างการถ่ายทำ มารายห์เอายีนส์ตัดขอบมาให้ผมดูว่าเธอจะเอามาใส่ถ